ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราต่างได้เห็นว่าการ ‘Video Conference’ เข้ามามีส่วนร่วมต่อชีวิตการทำงานอย่างมากในยุค Covid จนติดเป็นกิจวัตรประจำของหลายบริษัท เพราะถึงแม้จะไม่ได้เข้าออฟฟิศ แต่ก็สามารถประชุมกันได้ผ่านวิดีโอคอล หรือแม้แต่การเรียนออนไลน์ Video Conference กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าถึงบทเรียนได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งหากใครที่สนใจเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อตอบรับรูปแบบ Work From Home หรือ Hybrid Working เรามาดูกันว่า Video Conference คืออะไร และมีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
Video Conference คืออะไร?
Video Conference คือ ระบบการติดต่อสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่ใช้กล้องและจอภาพเป็นสื่อกลางในการรับ-ส่งข้อมูลภาพและเสียง ให้ผู้ซึ่งอยู่ต่างที่สามารถโต้ตอบซึ่งกันและกันได้เปรียบเสมือนการประชุมอยู่ในห้องเดียวกัน หรือเรียกได้อีกชื่อว่า ‘การประชุมทางไกล’ นั่นเอง
ในปัจจุบันนี้ การประชุมทางไกล Video Conference เป็นรูปแบบการประชุมที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะไม่ว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าร่วมประชุมได้ทุกที่ ทุกเวลา ลดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ การเดินทาง และระยะเวลาได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะกับรูปแบบการทำงานในยุคปัจจุบันที่ต้องการลดความแออัด เว้นระยะห่าง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ห่างไกล สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานได้ทุกเวลา
ข้อดีและข้อเสียของ Video Conference
ข้อดีของ Video Conference
- ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง
- หมดปัญหาเรื่องข้อจำกัดของสถานที่ ที่อาจไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้เข้าประชุม
- ลดความเสี่ยงจากจำนวนผู้เข้าประชุมที่แออัด
- สามารถแชร์หน้าจอเพื่อแบ่งปันข้อมูลได้อย่างละเอียด ให้ผู้เข้าประชุมมีส่วนร่วมไปพร้อมกัน
- สามารถประชุมได้ทุกเวลา เพื่อหาข้อสรุปและแก้ไขปัญหาในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว
- เปิดโลกการประชุมให้ไร้พรมแดน ไม่ว่าจะอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็สามารถเข้าร่วมได้
ข้อเสียของ Video Conference
- ขาดการปฏิสัมพันธ์กันต่อหน้า
- อาจมีปัญหาด้านสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้ภาพและเสียงไม่ชัดเจน ได้รับข้อมูลไม่ต่อเนื่อง
อุปกรณ์สำคัญสำหรับการ Video Conference
- Computer/Laptop
Computer หรือ Laptop คืออุปกรณ์พื้นฐานในการ Video Conference โดยสิ่งที่จำเป็นต้องมีคือโปรแกรมหรือ Application ที่ใช้ในการสร้างห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ ทั้งยังต้องสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างไมโครโฟนหรือกล้อง และที่สำคัญก็คือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความแรงสูง เพื่อให้การประชุมสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง
- Projector/Smart TV
Projector หรือ Smart TV ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการ Video Conference เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหน้าจอหลักในการนำเสนอภาพ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเห็นภาพต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น จึงควรเลือกอุปกรณ์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของห้องประชุม เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น และจะต้องเลือกอุปกรณ์ที่มีความคมชัด พร้อมสามารถเชื่อมต่อกับ Computer หรือ Laptop ได้อย่างราบรื่น ลดปัญหาการขัดข้องที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการประชุมจนทำให้เสียเวลา
- Video Conference Camera
แน่นอนว่าในการประชุมทางไกล หัวใจหลักของการประชุมก็คือ Video Conference Camera หรือกล้องประชุมออนไลน์ จะทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลภาพ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถมองเห็นภาพเดียวกันได้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรสูง เพื่อดำเนินการรับ-ส่งข้อมูลภาพได้อย่างไม่มีสะดุด และสามารถตรวจจับภาพและเสียงได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันปัญหาภาพไม่ตรงกับเสียง ที่อาจทำให้การรับรู้ข้อมูลคลาดเคลื่อนได้
- Microphone ไมค์สำหรับการประชุม
ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้การประชุมเป็นไปได้อย่างราบรื่น นั่นก็คือไมโครโฟนสำหรับการประชุมทางไกล ซึ่งไมโครโฟนที่มีคุณภาพ จะต้องมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน และจับเสียงของผู้พูดได้อย่างคมชัด เพื่อลดปัญหาทางด้านเสียงที่อาจรบกวนและเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสาร
สำหรับใครที่สนใจอยากเพิ่มประสิทธิภาพการ Video Conference ให้มีความคมชัดและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ขอแนะนำกล้องประชุมออนไลน์คุณภาพสูงจากแบรนด์ไกก้า ที่มาพร้อมความละเอียดสูงระดับ 4K และระบบโฟกัสใบหน้าอัจฉริยะ เชื่อมต่อง่ายไม่ต้องลง Driver ช่วยบอกลาทุกข้อจำกัดของการประชุมทางไกล และช่วยให้การประชุมออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ช็อปสะดวกทางออนไลน์ หรือติดต่อเราได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 0-2582-2285