ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ การพัฒนาองค์กรให้มีความทันสมัยเท่าทันกับเทคโนโลยีถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กร พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี วันนี้เราขอชวนมารู้จักกับนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะช่วยยกระดับองค์กรและภาพลักษณ์ในการทำธุรกิจให้เหนือกว่าที่เคย อย่าง ‘จอ Digital Signage’ มาดูกันว่าจอชนิดนี้คืออะไร น่าสนใจอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
จอ Digital Signage คืออะไร
จอ หรือป้ายประกาศ Digital Signage คือจอแสดงผลที่นำเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ (ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows) มาผสมผสานกับจอภาพคอมพิวเตอร์ หรือจอ LCD/LED TV ทำให้มีความโดดเด่น สะดุดตา ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจอ Digital Signage ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งการแสดงเนื้อหาประกาศ ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาต่าง ๆ ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ โดยมีความยืดหยุ่นในการแสดงผล เนื่องจากสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงเนื้อหาได้ตลอดเวลา รวมถึงสามารถกำหนดวันเวลาในการแสดงข้อมูลขึ้นจอตามเวลาที่ต้องการได้ล่วงหน้า จากระยะไกลจึงเป็นเครื่องมือในการสร้างการสื่อสารและโฆษณาที่นิยมของยุคดิจิทัลในปัจจุบัน
จอ Digital Signage สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
- ใช้แสดงข้อมูลสินค้า โดยอาจใช้แสดงชื่อหมวดหมู่สินค้า พร้อมรูปภาพ เพื่อให้ลูกค้าหาสิ่งที่ต้องการได้ หรือใช้นำเสนอข้อมูล เพื่อโปรโมตสินค้าได้อย่างครบถ้วน ซึ่งการให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดครบจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น
● ใช้แสดงโปรโมชัน ด้วยการใช้รูปส่วนลด เพื่อให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน ซึ่งอาจทำให้เกิดการซื้อสินค้าเพิ่มจากโปรโมชันที่แนะนำในจอ
● ใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ลูกค้า, ผู้สนใจ รับรู้ถึงสิ่งที่ต้องการสื่อสารโดยทั่วกัน เช่น แผนที่ท่องเที่ยวในจังหวัด, แพทย์ที่ออกตรวจแผนกต่างๆ ในโรงพยาบาล หรือ ราคายาและค่าบริการทางการแพทย์ เป็นต้น ด้วยจอที่มีความโดดเด่น ดึงดูดสายตา ให้ข้อมูลละเอียดและชัดเจน
● ใช้ในการประชุมและการฝึกอบรม ใช้ในการถ่ายทอด Content ที่น่าสนใจให้แก่หน่วยงานทั้งในห้องประชุมและนอกการประชุมให้ได้รับเนื้อหาพร้อมกันได้
คุณสมบัติของจอ Digital Signage ที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ คืออะไร?
จอ Digital Signage มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor
จอทั้ง 2 แบบนี้จะมีความแตกต่างกันตามความต้องการในการใช้งาน โดยมีข้อแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้
- ความทนทาน โดยจอ Indoor จะอยู่ได้แค่ในสภาพแวดล้อมภายในอาคาร แต่สำหรับ Outdoor จะสามารถต้านทานสภาพอากาศได้ดีกว่า เนื่องจากถูกติดตั้งอยู่ภายนอกอาคารที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น แสงแดด ฝน ลม ความร้อน โดยควรมีมาตรฐาน IP65 เพื่อกันน้ำและฝุ่นได้ด้วย
- ● ความสว่างของหน้าจอ โดยจอ Indoor มักมีความสว่างที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในอาคาร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ดีในสภาพแสงธรรมชาติ แต่จอ Outdoor ต้องมีความสว่างที่มากกว่า เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงภายนอกที่สว่างจ้า
หน้าจอมีทั้งแบบระบบสัมผัสและแบบธรรมดา
ความแตกต่างที่สำคัญของจอ หรือป้าย Digital Signage แบบสัมผัสและแบบธรรมดา คือแบบสัมผัสจะให้ประสบการณ์ที่สมจริงมากกว่าในการใช้งาน ด้วยการสั่งงานผ่านการสัมผัสหน้าจอโดยตรง มีทั้งแบบ IR Touch, Capacitive Touch และ Nanotouch ทำให้สามารถแสดงตัวเลือกและข้อมูลในทันที ในขณะที่จอแบบธรรมดาต้องอาศัยการควบคุมผ่านระยะไกลด้วยระบบคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้งานจะไม่สามารถกดและเลือกข้อมูลด้วยตัวเองได้ ต้องรอให้ข้อมูลขึ้นมาตามระยะเวลาที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
มีความละเอียดที่คมชัดให้เลือกสรร
การเลือกความละเอียดของจอ Digital Signage จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการแสดงผล โดยมีความละเอียดทั่วไป คือ
- Full HD มีค่าความละเอียดของภาพอยู่ที่ 1920×1080 พิกเซล (หรือ 2,073,600 พิกเซลทั้งหมด) ซึ่งมีความคมชัดและรายละเอียดที่ดีเพียงพอสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
● 4K หรือ Ultra HD มีค่าความละเอียดอยู่ที่ 3840×2160 พิกเซล (หรือ 8,294,400 พิกเซลทั้งหมด) โดยภาพที่แสดงบนจอ 4K จะมีความคมชัด เหมาะสำหรับการแสดงภาพความละเอียดสูง เช่น ภาพนิ่งที่ต้องการความคมชัดเป็นพิเศษ หรือวิดีโอ 4K ความละเอียดสูง
มีรูปแบบให้เลือกตามการใช้งานที่หลากหลาย
ก่อนจะเลือกซื้อจอ Digital Signage ควรคำนึงถึงตำแหน่งในการใช้งานเป็นสำคัญ โดยมีจอหลายแบบให้เลือกใช้ ดังนี้
- Portable Digital Signage เป็นตัวเครื่องที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เป็นขาตั้งแบบพับได้ จะทำให้เห็นภาพเอียง 30 องศา มีตั้งแต่ขนาด 43”, 55”, 65” พร้อมกับระบบควบคุมการแสดงผลที่ใช้ง่าย เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในงานที่ต้องการพกพา หรือการใช้งานนอกสถานที่ต่าง ๆ เช่น งานแสดงสินค้า งานอีเวนต์ หรือร้านค้าขนาดเล็ก โดยสามารถใส่สื่อเพิ่มได้
- Stand Digital Signage จัดตั้งอยู่บนโครงขาตั้งที่ถาวร แข็งแรงให้ภาพการมองเห็นในแนวตั้งฉากกับพื้น สามารถวางตัวเครื่องได้ในตำแหน่งที่ต้องการเน้นตั้งประจำอยู่กับที่ เนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่าแบบ Portable สามารถใส่ล้อเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในห้างสรรพสินค้า ห้องประชุม โรงแรม ร้านค้า หรือสถานที่สาธารณะทั่วไปมีขนาดให้เลือกใช้ตั้งแต่ 43”, 55”, 65”, 86”
- Wall Type Digital Signage จะมีการติดตั้งบนผนังได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนมาพร้อมตัวยึดติดผนัง celing mount ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถติดตั้งบนผนังได้โดยตรง หรือจะยึดติดกับขาตั้งล้อเลื่อนก็ได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสนามกีฬาในอาคารเป็นต้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 43”, 55”, 65” หรือขนาดเล็กที่ใช้ในลิฟท์อีกด้วย
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่าแล้วจอ Digital Signage มีข้อดีแตกต่างจากการใช้ TV มาเสียบ USB หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดข้อมูลที่ต้องการนำเสนออย่างไร ซึ่งขอตอบเลยว่าต่างกันมากเพราะจอ Digital Signage มีความทนทานที่มากกว่า โดยสามารถเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อกัน 7 วัน (24/7) อีกทั้งยังมีความสว่างที่มากกว่าและการสะท้อนแสงที่น้อยกว่าจอทีวี เนื่องจากจอ Digital Signage ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับภาพลักษณ์องค์กรโดยเฉพาะ
เลือกจอ Digital Signage คุณภาพสูงเลือก GYGAR!
GYGAR จัดจำหน่ายจอ Digital Signage คุณภาพสูง ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัยและการแสดงผลคมชัดเหนือระดับที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการ Content ฟรี สั่งซื้อออนไลน์สะดวก เลือกชำระได้หลากหลาย พร้อมบริการจัดส่งถึงที่ทั่วไทยและมีการติดตั้งจากทีมช่างที่ผ่านการรับรองความรู้ ความสามารถ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคารทั้งหมด สอบถามราคาและปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานได้ที่ Call Center: 0-2582-2285 หรือ add ID Line : @GYGAR เราคือผู้นำเข้าอุปกรณ์ดิจิทัลด้านสื่อพรีเซนเตชั่นและมีศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานพร้อมให้บริการ